ความประเสริฐคืนนิสฟูชะอฺบาน เดือนชะอฺบาน เป็นอีกเดือนหนึ่งที่ประชาชาติอิสลามให้ความสำคัญ เป็นเดือนแห่งอรัมภบทสำหรับเดือนร่อมะฏอนอันมีเกียรติ อีกทั้งเป็นเดือนแห่งการฝึกฝนในการถือศีลอด การละหมาดสุนัต และปฏิบัติคุณงามความดีต่าง ๆ เพื่อลิ้มรสความใกล้ต่ออัลเลาะฮ์ตาอาลาและดื่มด่ำความหอมหวานของอิหม่าน ดังนั้น เมื่อเดือนรอมะฏอนมาถึง พวกเขาจึงมีความเคยชินและมีความพร้อมที่จะตอบรับภารกิจอันสำคัญ ท่าน อัตติรมีซีย์ ได้กล่าวรายงาน ด้วยสายรายงานถึงท่านหญิงอาอิชะฮ์ (ร.ฏ.) ท่านหญิงกล่าวว่า "ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.) ได้หายจากฉันไปในคืนหนึ่ง ดังนั้น ฉันจึงออกไปข้างนอก ทันใดนั้น ปรากฏว่าท่านร่อซูลุลเลาะฮ์อยู่ที่บะเกี๊ยะอฺ แล้วท่านร่อซูลุเลาะฮ์(ซ.ล.) กล่าวว่า เธอกลัวว่าอัลเลาะฮ์และร่อซูลของพระองค์จะอธรรมแก่เธอกระนั้นหรือ? ฉันกล่าวว่า โอ้ ร่อซูลุลเลาะฮ์ ฉันคิดว่า ท่านไปหาภริยาบางคน ดังนั้น ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.) กล่าวว่า แท้จริง อัลเลาะฮ์ทรงประทานความจำเริญลงมายังฟากฟ้าชั้นล่าง แล้วพระองค์ก็ทรงอภัยโทษ(ให้กับปวงบ่าว) มากกว่าจำนวนขนแกะของ(ชาว)กัลบ์" ท่านอัตติรมีซีย์กล่าวว่า "ในเรื่องนี้ ได้มีรายงานจากท่านอบูบักร อัศศิดดีก และหะดิษของท่านหญิงอาอิชะฮ์นั้น เราไม่รู้มาเลย นอกจากสายรายงานนี้ ที่รายงานจาก อัลฮัจญาจญฺ ซึ่งฉันได้ยินท่านมุฮัมมัด(บินอิสมาอีลอัลบุคอรีย์) กล่าวฏออีฟกับหะดิษนี้ และท่านยะหฺยา บิน อะบีกะษีรกล่าวว่า เขาไม่ได้ยินมาจากท่านอุรวะฮ์ และอัลฮัจญาจญฺ บิน อัรเฏาะอะฮ์นั้น ไม่ได้ยินมาจาก ยะหฺยา บิน อะบีกะษีร" ดู สุนัน อัตติรมีซีย์ เล่ม 3 หน้า 166 ท่านอิบนุมาญะฮ์ได้รายงานไว้ ในเล่มที่ 1 หน้า 444 , ท่านอิมามอะหฺมัด ได้รายงานไว้ในหนังสือมุสนัด เล่ม 6 หน้า 238 , และท่านอิบนุอบีชัยบะฮ์ ได้รายงานไว้ในหนังสือมุซ๊อนนัฟ เล่ม 6 หน้า 108 ท่าน อัลบัยรูตีย์ ได้กล่าวไว้ในหนังสือ อัสนา อัลมะฏอลิบ หน้าที่ 86 ว่า "ท่านอัดดารุกุฏนีย์ กล่าวว่า สายรายงานนี้ สับสน ไม่ได้รับการยืนยัน" แต่หะดิษนี้ ยังมีสายรายงานอื่นมาสนับสนุนซึ่งได้กล่าวรายงานไว้ในหนังสือ "ฟาฏออิล อัลเอาฏ๊อต" ของท่าน อัลบัยฮะกีย์ หน้า 128 ว่า "ได้เล่าให้เราทราบโดย อบูอับดิลลาฮ์ เขากล่าวว่า ได้เล่าให้เราทราบโดยอบูญะฟัร มุฮัมมัด บิน ซอลิหฺ บิน ฮานีอ์ เขากล่าวว่า ได้เล่าให้เราทราบโดย อิบรอฮีม บิน อิสฮาก อัลฆุซัยลีย์ เขากล่าวว่า ได้เล่าให้เราทราบโดย วะฮ์บฺ บิน บุก๊อยยะฮ์ เขากล่าวว่า ได้เล่ากับเราโดย สะอีด บิน อับดุลกะรีม อัลวาซิฏีย์ จากอบูนั๊วะอฺมาน อัลซะอฺดีย์ จาก อบีร่อญาอฺ อัลอะฏอริดีย์ จากท่านอะนัส บิน มาลิก ท่านกล่าวว่า "ท่านนบี(ซ.ล.) ได้ใช้ให้ฉันไปยังบ้านของท่านหญิงอาอิชะฮ์(ร.ฏ.) เกี่ยวกับธุระหนึ่ง ดังนั้น ฉันจึงกล่าวกับนางว่า ท่านหญิงจงรีบซิ เพราะฉันได้ปล่อยให้ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์สนทนากับพวกเขาเกี่ยวกับคืนนิสฟูชะอฺบาน ดังนั้น ท่านหญิงกล่าวว่า โอ้ อุนัยส์(ชื่อเล่นของท่านอะนัส) ท่านจงนั่งก่อนซิ แล้วฉันจะเล่าหะดิษหนึ่งเกี่ยวกับคืนนิสฟูชะอฺบานให้ท่านฟัง..แท้จริงคืน(นิสฟูชะอฺบาน)นั้นเป็นคืนของฉัน(ที่อยู่)กับท่านร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.) ซึ่งท่านร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.) กล่าวว่า โอ้ ฮุมัยรออฺ (ชื่อเล่นของพระนางอาอิชะฮ์ แปลว่าแดงระเรื่อ หมายถึง พระนางอาอิชะฮ์เป็นสาวแก้มแดงแบบพอดี) เธอรู้หรือไม่ว่า แท้จริงคืนนี้คือคืนนิสฟูชะอฺบาน ซึ่งคืนนี้อัลเลาะฮ์ทรงปลดปล่อยปวงบ่าวออกจากไฟนรก เท่าจำนวนของขนแกะของ(ชาว)กัลบ์(ที่มีขนมาก)..." รายงานจากท่านอะลี บิน อบีฏอลิบ ท่านกล่าวว่า ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์(ซ.ล.) "เมื่อถึงคืนนิสฟูชะอฺบาน พวกท่านจงละหมาด(ทำอิบาดะฮ์)ในช่วงกลางคืนและทำการถือศีลอดในช่วงกลางวัน เพราะหลังจากดวงอาทิตย์ลับ อัลเลาะฮ์ทรงลง(ความจำเริญ) มาสู่ฟากฟ้าชั้นล่างสุด และพระองค์กล่าวว่า ไม่มีผู้ขออภัยโทษกับข้าฯดอกหรือ เพื่อข้าฯจะอภัยให้แก่เขา ไม่มีผู้วอนขอริสกีดอกหรือ เพื่อข้าฯจะประทานริสกีให้แก่เขา ไม่มีผู้ได้รับบาลออฺการทดสอบดอกหรือ เพื่อข้าฯจะให้เขาหาย ไม่มีผู้เป็นเช่นนั้น เช่นนี้ดอกหรือ จนกระทั่งแสงอรุณขึ้น" รายงานโดย อิบนุมาญะฮ์ ไว้ในสุนันของท่าน 1/444 , ท่านอัลบัยฮะกีย์ ในหนังสือ ชะอฺบุลอีมาน 3/379 , และท่าน อับดุรร๊อซซาก ไว้ในหนังสือ อัลมุซ๊อนนัฟ หะดิษที่ 7923 ท่านอัลอิรอกีย์ กล่าวไว้ในหนังสือ ตักรีจญฺ อะหาดิษ อัลอิหฺยาอฺ 1/203 ว่า "สายรายงานหะดิษนี้ฏออีฟ" รายงานจากอับดุลเลาะฮ์ บิน อัมร์ ว่า ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "อัลเลาะฮ์จะทรงมองมาจากมัคโลคของท่านในค่ำคืนนิสฟูชะอฺบาน ดังนั้นพระองค์ทรงอภัยให้แก่บรรดาปวงบ่าวนอกจากสองบุคคลเท่านั้น คือผู้ที่สร้างความรังเกียจต่อกันและผู้ที่ฆ่ากับชีวิตหนึ่ง" ดู มัจญ์มะอฺ อัซซะวาอิด 8/126 ของท่านอัลฮัยษะมี และมุสนัดอิมามอะห์มัด 2/176 อะห์หมัดชากิร กล่าวว่า หะดิษนี้ซอฮิห์ รายงานจากมุอาซฺ บิน ญะบัล ว่า ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "อัลเลาะฮ์จะมองมายังมัคโลคของพระองค์ในคืนนิสฟูชะอฺบาน แล้วพระองค์ก็จะทรงอภัยให้บรรดามัคโลคทั้งหมดนอกจากผู้ตั้งภาคีหรือผู้ที่สร้างความรังเกียจต่อกัน" ซอฮิห์อิบนุฮิบบาน 12/481 และมัจญ์มะอฺอัซซะวาอิด 8/126 ท่านอัลฮัยษะมีย์กล่าวว่า นักรายงานเชื่อถือได้ ความจริงยังมีหะดิษอีกมากมายที่รายงานเกี่ยวกับความประเสริฐของคืนนิสฟูชะอฺบาน ซึ่งมีทั้งสายรายงานที่ซอฮิห์และสายรายงานที่ฏออีฟที่สามารถได้รับการเกลื้อหนุนยกระดับซึ่งกันและกันได้ตามหลักวิชาหะดิษ เจ้าของหนังสือตั๊วะห์ฟะตุลอะห์วาซีย์ กล่าว่วา "ท่านจงรู้เถิดว่า แท้จริงมีหลายหะดิษที่รายงานเกี่ยวกับความประเสริฐของคืนนิสฟูชะอฺบาน ซึ่งเมื่อประมวลบรรดาหะดิษเหล่านี้แล้ว ย่อมชี้ให้เห็นว่า บรรดาหะดิษต่าง ๆ เหล่านี้มีที่มา...ดังนั้นบรรดาหะดิษเหล่านี้ย่อมเป็นหลักฐานยืนยันต่อผู้ที่อ้างว่าความประเสริฐของคืนนิสฟูชะอฺบานไม่ได้รับการยืนยันจากหะดิษใดเลย วัลลอฮุอะลัม" ตั๊วะห์ฟะตุลอะห์วาซีย์ 3/365 ท่านอัลหาฟิซฺ อัลมุนาวีย์ กล่าวว่า "อัลมัจญ์ อิบนุ ตัยมียะฮ์ กล่าวว่า คืนนิสฟูชะอฺบานนั้น ได้ถูกรายงานถึงความประเสริฐของมัน จากบรรดาหะดิษและคำกล่าวของสะลัฟที่บอกให้ทราบว่า คืนนิสฟูชะอฺบานมีความประเสริฐ และสะลัฟส่วนหนึ่งได้ทำการละหมาดในคืนนิสฟูชะอฺบานเป็นพิเศษและทำการถือศีลอดในคืนนิสฟูชะอฺบาน ซึ่งมีบรรดาหะดิษซอฮิห์ได้กล่าวไว้เกี่ยวกับสิ่งดังกล่าว" ฟัยดุลก่อดีร 2/317 แม้กระทั่งอัลบานีย์เองก็ยังตัดสินว่า หะดิษความประเสริฐของคืนนิสฟูชะอฺบานนั้นซอฮิห์ ไว้ในหนังสือ อัซซัลซิละฮ์อัซซ่อฮีฮะฮ์ หะดิษที่ 1144 และในหนังสือซอฮิห์อิบนุมาญะฮ์ 1/233 ทัศนะของสะลัฟเกี่ยวกับคืนนิสฟูชะบาน ท่านอัลคอลล้าล ได้รายงานไว้ในหนังสือ ความประเสริฐของเดือนร่อญับ จากสายรายงานจากท่านคอลิด บิน มะอฺดาน เขากล่าวว่า ในหนึ่งปี มีอยู่ 5 คืน ที่ผู้ใดหมั่นทำความดีในคืนเหล่านั้น โดยหวังผลบุญและเชื่อในสัญญาให้ผลบุญกับคืนเหล่านั้น อัลเลาะฮ์จะให้เขาได้เข้าสวรรค์ คือ คืนแรกของเดือนระญับ โดยเขาทำอิบาดะฮ์ในยามกลางคืนและถือศีลอดในยามกลางวัน คืนอีดฟิตร์ คืนอีดอัฏหา คืนอาชูรออ์ และคืนนิสฟูชะอฺบาน" ดู หนังสือ อัตตัลคีศ อัลหะบีร ของท่านอิบนุหะญัร อัลอัสก่อลานีย์ 2 /160 ท่านอัลคอฏีบ ได้รายงานไว้ในหนังสือ ฆุนยะฮ์ อัลมุลตะมิส ด้วยสายรายงานถึงท่าน อุมัร บิน อับดุลอะซีซ ว่า ท่านได้ทำการเขียนสารไปยัง อะดีย์ บิน อัรเฏาะอะฮ์ ว่า "ท่านจงใส่ใจกับ 4 คืน ในหนึ่งปี เพราะอัลเลาะฮ์ทรงประทานความจำเริญในคืนเหล่านั้น คือ คืนแรกของเดือนร่อญับ คืนนิสฟูชะอฺบาน คืนอีดฟิตร์ และคืนอีดอัฏฮา" ดู หนังสือ อัตตัลคีศ อัลหะบีร ของท่านอิบนุหะญัร อัลอัสก่อลานีย์ 2/160 ท่านอิบนุรอญับ กล่าวว่า "ท่านสะอีด บิน มันซูร รายงานว่า ได้เล่าให้เราทราบ โดย อบู มะอฺชัร จาก อบูหาซิมและมุฮัมมัด บิน ก๊อยซ์ จากท่าน อะฏออ์ บิน ยะซาร ท่านกล่าวว่า "ไม่มีคืนใดหลังจากคืนลัยละตุลก่อดัรที่จะประเสริฐยิ่งไปกล่าวคืนนิสฟูชะอฺบาน ซึ่งอัลเลาะฮ์ทรงประทานความเมตตามาสู่ฟากฟ้าชั้นล่าง แล้วพระองค์ก็ทรงประทานอภัยโทษแก่ปวงบ่าวของพระองค์ทั้งหมด นอกจาก ผู้ตั้งภาคี , ผู้สร้างความโกรธเคืองกันและกัน , และผู้ที่ตัดญาติขาดมิตร" ดู หนังสือ ละฏออิฟ อัลมะอาริฟ หน้า 263 คำกล่าวของนักปราชญ์นิติศาสตร์อิสลาม ท่านอิมามชาฟีอีย์(ร.ฏ.) ได้กล่าวไว้ในหนังสืออัลอุม ว่า “ได้รับทราบถึงเราว่า แท้จริงดุอาอ์จะถูกตอบรับ(เป็นพิเศษ) ในห้าคืน คือ คืนวันศุกร์ คืนอีดอัฏฮา คืนอีดฟิตร์ คืนแรกของเดือนระญับ และคืนนิสฟูชะอฺบาน” ดู 2 /264 และอิมามชาฟิอีย์(ร.ฏ.) กล่าวว่า “ข้าพเจ้ารัก(ที่จะให้กระทำ)กับทุกสิ่งที่ข้าพเจ้าได้รายงานเกี่ยวกับบรรดาคืนเหล่านี้ โดยที่ไม่ใช่เป็นฟัรดู” แหล่งอ้างอิงเดียวกัน ท่านอิมามอบูชามะฮ์ กล่าวไว้ในหนังสือ อัลบิดะอฺ วะ อัลหะวาดิษ ว่า “ท่านอิมามอิบนุ ซอลาห์ ได้กล่าวไว้ในฟัตวาหนึ่งของท่านว่า สำหรับคืนนิสฟูชะอฺบานนั้น มีความประเสริฐ และการฟื้นฟูการทำอิบาดะฮ์ในคืนนิสฟูชะบาน เป็นสิ่งที่สุนัต แต่ให้ทำเพียงคนเดียว ไม่ใช่เป็นกลุ่ม” ดู หน้า 44 ท่านอิมาม อันนะวาวีย์ ได้กล่าวไว้ในหนังสือ เราเฏาะฮ์ อัตตอลิบีน ว่า “ได้รับทราบถึงเราว่า แท้จริงดุอาอ์จะถูกตอบรับ(เป็นพิเศษ) ในห้าคืน คือ คืนวันศุกร์ คืออีดอัฏฮา คืนอีดฟิตร์ คือแรกของเดือนระญับ และคืนนิสฟูชะอฺบาน และและอิมามชาฟิอีย์(ร.ฏ.) กล่าวว่า “ข้าพเจ้ารัก(ที่จะให้กระทำ)กับทุกสิ่งที่ได้ข้าพเจ้าได้รายงานเกี่ยวกับบรรดาคืนเหล่านี้ โดยที่ไม่ใช่เป็นฟัรดู” ดู 2/75 ท่านอิมาม อัรรอมลีย์ ได้กล่าวไว้ในหนังสือ นิฮายะตุลมั๊วะตาจญฺ ว่า “รายงานจากท่านอิบนุอับบาส ซึ่งท่านได้ทำการฟื้นฟูการทำอิบาดะฮ์ ในสองคืนอีดฟิตรและอัฏฮา ด้วยการละหมาดอีชาแบบญะมาอะฮ์ และตั้งใจละหมาดซุบฮ์แบบญะมาอะฮ์ และการขอดุอาอ์ในคืนอีดฟิตร์และอัฏฮา คืนวันศุกร์ ช่วงคืนแรกของเดือนระญับ และคืนนิสฟูชะบานนั้น จะถูกตอบรับ ดังนั้น จึงเป็นสิ่งที่ชอบ(มุสตะฮับ)ให้กระทำ” ดู 2/397 ท่านอิบนุตัยมียะฮ์ กล่าวว่า “สำหรับคือนิสฟูชะอฺบานนั้น ได้มีบรรดาหะดิษ คำกล่าวของซอฮาบะฮ์และมีการถ่ายทอดการกระทำจากกลุ่มหนึ่งของสะลัฟว่าพวกเขาได้ทำการละหมาดในคือนิสฟูชะอฺบาน ดังนั้น การละหมาดในคืนนิสฟูชะอฺบาน โดยลำพังคนเดียว คือสิ่งที่สะลัฟได้กระทำกันมาก่อนหน้านี้ โดยมีหลักฐานมายืนยันให้แก่เขา เพราะฉะนั้น จึงไม่ถูกตำหนิกับการกระทำเช่นนี้ แต่สำหรับการละหมาดในคืนนิสฟูชะอฺบานแบบญะมาอะฮ์นั้น ก็ถือว่าตั้งอยู่บนหลักการพื้นฐานทั่วไปจากส่งเสริมให้ทำการรวมตัวกันกระทำการฏออัตภักดีและทำอิบาะฮ์” ดู มัจญมั๊วะ อัลฟะตาวา 23/132 ท่านอิบนุรอญับ กล่าวว่า “คืนนิสฟูชะอฺบานนั้น บรรดาตาบิอีนจากเมืองชาม เช่น ท่านคอลิต บิน มะอฺดาน , ท่านมักฮูล ท่านลุกมาน บิน อามิร , และท่านอื่น ๆ ได้ให้ความสำคัญกับคืนนิสฟูชะอฺบาน พวกเขาทำการอิจญฮาด(บากบั่นหมั่นเพียร)ทำอิบาดะฮ์ในคืนนั้น และจากการกระทำของพวกเขาเหล่านั้น บรรดาผู้คนจึงให้ความสำคัญกับความประเสริฐของคืนนิสฟูชะอฺบาน และมีการกล่าวกันว่า ดังกล่าว มีสายรายงานอิสรออีลียาต(สายรายงานที่มาจากบนีอิสรออีล)ได้ทราบมาถึงพวกเขา เมื่อสิ่งดังกล่าวได้เลื่องลือมาจากพวกเขา ได้เข้ามาในเมืองต่าง ๆ กลุ่มหนึ่งจากนักทำอิบาดะฮ์ของเมืองบัสเราะฮ์และเมืองอื่น ๆ จึงให้การตอบรับและมีความเห็นพร้องกับการให้ความสำคัญของคืนนิสฟูชะอฺบาน...” ดู หนังสือ ละฏออิฟ อัลมะอาริฟ หน้า 263 การถือศีลอดเดือนชะอฺบาน ท่านอุซามะฮ์ บิน เซด กล่าวว่า "ฉันได้กล่าวว่า โอ้ ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ฉันไม่เคยเห็นท่านทำการถือศีลอดในเดือนหนึ่งจากบรรดาเดือนทั้งหลายเหมือนกับการถือศีลอดในเดือนชะอฺบานเลย ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า ดังกล่าวเป็นเดือนที่ผู้คนทั้งหลายลืม ซึ่งมันอยู่ระหว่างเดือนร่อญับและเดือนร่อมะฏอน และ(เดือนชะอฺบานนั้น)มันเป็นเดือนที่บรรดาอะมัลทั้งหลายถูกรายงานสู่พระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก ดังนั้นท่านจึงชอบที่จะให้อะมัลของฉันถูกรายงานในสภาพที่ฉันถือศีลอด" รายงานโดยอันนะซาอี (2317) ท่านหญิงอาอิชะฮ์ มารดาแห่งศรัทธาชน กล่าวว่า "ฉันไม่เคยเห็นท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ถือศีลอดอย่างสมบูรณ์ในเดือนใดเดือนหนึ่งนอกจากเดือนร่อมะฏอน และฉันไม่เคยเห็นท่านร่อซูลุลเลาะฮ์จะทำการถือศีลอดจากเดือนหนึ่งมากไปว่าเดือนชะอฺบาน" รายงานโดยบุคอรีย์(1833) รายงานหนึ่งระบุว่า ท่านหญิงอาอิชะฮ์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮา กล่าวว่า "ท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ไม่เคยถือศีลอดในเดือนหนึ่งมากไปกว่าเดือนชะอฺบาน เพราะท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เคยทำการถือศีลอดเดือนชะอฺบาน(เกือบ)ทั้งเดือน" รายงานโดยบุคอรีย์(1834) และอีกสายรายงานหนึ่งระบุเช่นกันว่า ท่านหญิงอาอิชะฮ์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮา กล่าวว่า "ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ทำการถือศีลอดเดือนชะอฺบาน นอกจากเพียงเล็กน้อย(จากเดือนชะอฺบานเท่านั้นที่ท่านไม่ได้ถือศีลอด)" รายงานโดยมุสลิม(1156) ท่านอัตติรมีซีย์ ได้รายงานจากอบูฮุรอยเราะฮ์ ร่อฏิยัลลอฮุอันฮุ ว่าท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "เมื่อเข้าสู่ครึ่งที่สองของเดือนชะอฺบาน ท่านทั้งหลายอย่าถือศีลอด" ดู หะดิษที่ 738 ท่านอัตติรมีซีย์กล่าวว่า หะดิษนี้ซอฮิห์ ท่านอิบนุมาญะฮ์ รายงานว่า "เมื่อถึงครึ่งหนึ่งของเดือนชะอฺบานแล้ว จะไม่มีการถือศีลอด จนกว่าจะเข้าสู่รอมะฏอน" ดู หะดิษที่ 1651 แต่จะไม่ห้ามการถือศีลอดในวันที่สงสัย(ว่าเข้าเดือนรอมะฏอนแล้วหรือยัง) และไม่ห้ามการถือศีลอดในครึ่งที่สองของเดือนชะอฺบาน เมื่อมันไปตรงกับวันที่ผู้ถือศีลอดได้ปฏิบัติอยู่เป็นประจำ หรือเขาได้ถือศีลอดต่อเนื่องกันมาจนเข้าสู่ครึ่งที่สองของเดือนชะอฺบาน ท่านอบูฮุรอยเราะฮ์ รายงานจากท่าน ร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมความว่า "ท่านทั้งหลายอย่าถือศีลอดก่อนเข้าสู่รอมะฏอนหนึ่งวันหรือสองวัน นอกจากผู้ที่ได้ถือศีลอดเป็นประจำ ก็ให้เขาถือศีลอดเถิด" รายงานโดย บุคอรีและมุสลิม สรุป : คือ การถือศีลอดเดือนชะอฺบานนั้นถือว่าเป็นสุนัตเพราะท่านนบี ถือศีลอดเดือนชะอฺบานเป็นประจำ แต่หากตั้งใจจะถือศีลอดเพียงแค่ครึ่งหลังของเดือนชะอฺบานโดยไม่มีสาเหตุใด ๆ เช่น กอฏอชดใช้ศีลอด ถือศีลอดจันทร์และพฤหัสบี เป็นต้น ก็ถือว่าฮะรอมนะครับ ( ดู หนังสือมุฆนีอัลมั๊วะห์ตาจญ์ 2/177) อัล-ฟารูก |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น